ปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์
โรคของมะขามเปรี้ยวยักษ์ ที่อาจจะเกิดคือโรคของแมลงรบกวนมากัดกินใบอ่อนบ้างแต่ไม่มาก ส่วนอีกโรคคือโรคราแป้งขาว จะเกิดเชื้อระบาดรุนแรง ในสภาพอากาศที่เย็นและแห้ง ซึ่งจะทำให้ต้นมะขามโทรม ถ้าเป็นในช่วงออกดอกติดฝักจะทำให้ลดจำนวนลง มักเกิดในช่วงปลายฝนเราสามารถใช้กำมะถันผงฉีดพ่นช่วงเย็นๆ ประมาณ 1-2 ครั้ง ราแป้งก็จะหายไป
วิธีการปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์ ให้ได้ผลดี การปลูกมะขามเปรี๊ยวจะใช้ระยะ 8×8 – 10×10 เมตร หรือ 5×5 วา ไร่หนึ่งปลูก 16-25 ต้นต่อไร่ เพราะมะขามเป็นไม้ผลไผลที่เก็บกินได้ระยะยาวเป็นร้อยปี ถ้าปลูกชิดมากจะมีผลต่อทรงพุ่มของมะขามเปรี๊ยว เพราะมะขามเปรี๊ยวจะชอบแดดจัด น้ำน้อย ถ้าปลูกที่ร่มมะขามจะไม่โต ไม่ติดฝักให้ และถ้าบำรุงรดน้ำใส่ปุ๋ยมากเกินไปก็จะไม่ติดฝัก ต้นจะสวยแต่ใบ
เตรียมหลุมปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์ กันดีกว่า หากดินแข็งให้ขุดหน้าดินกว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 50 เซนติเมตร หาเศษหญ้าปุ๋ยคอก (ขี้วัว) รองก้นหลุม ถ้าดินในที่นั้นแห้งแล้งน้ำน้อยใช้กากมะพร้าวชิ้นใหญ่ ลงไปที่ก้นหลุมกลบดินตามเดิม แล้วขุดดินมา 1 หน้าจอบ และนำต้นพันธ์มะขามเปรี๊ยวยักษ์ ลงปลูกในระดับดินอยู่ใต้ผ้าทาบ 1 อาทิตย์ หลังจากลงปลูกจึงกรีดผ้าทาบออก ต้องหาไม้มาช่วยค้ำต้นกันลมโยกต้น รดน้ำวันละครั้งในช่วงแรก หลังจากนั้นให้ทิ้งช่วงประมาณ 6 เดือน หรือ 2 อาทิตย์ต่อครั้งหากเร่งต้นให้โต จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยคอกอัตราส่วน 100 – 200 กรัมต่อ 1 ต้น ในปีแรกแบ่งเป็น 2 ครั้ง คือ 6 เดือนต่อครั้ง สำหรับปีต่อไปจำนวน 200 – 300 กรัมตามลำดับ และปีต่อไปให้เพิ่มปุ๋ยมากขึ้นตามทรงพุ่มของต้น
การดูแลรักษาต้นมะขาม ดูแลเหมือนไม้ผลทั่วไป หลังจากปีที่ 2 และขึ้นปีที่ 3 ถ้าอยากให้มะขามติดฝัก ควรหยุดน้ำหยุดปุ๋ย ให้ต้นสลัดใบในช่วงหน้าร้อน พอต้นฝน ฝนตกลงมามะขามก็จะแตกใบอ่อนและดอกจะติดฝักให้ หลังจากออกดอกติดฝักให้บำรุงรดน้ำใส่ปุ๋ยและเด็ดฝักฝักอ่อนทิ้งบ้างหากได้ฝักเยอะเกินจำเป็น เพราะจะทำให้ต้นโทรมได้ เนื่องจากเมื่อมะขามติดฝักแล้ว ต้นจะเริ่มโตช้าลงเพราะมะขามจะนำอาหารไปเลี้ยงฝักหมด
การใส่ปุ๋ยต้นมะขามเปรี้ยวยักษ์ เมื่อมะขามให้ฝักควรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ โดยแบ่งใส่ 2-3 ครั้งจะช่วยให้ฝักใหญ่ได้น้ำหนักมาก และให้น้ำในระยะปลูกใหม่ไม่ขาด ถ้าฝนไม่ตกเพิ่ม ต้องรดน้ำ 1-2 ครั้ง/วัน (ขึ้นอยู่กับสภาพดิน หรือประมาณ 1 สัปดาห์ต่อครั้ง) จนกว่ามะขามยักษ์จะเริ่มเป็นจากนั้นทิ้งให้ห่างประมาณ 7-10 วันต่อครั้ง
ตลาดมะขามเปรี้ยวยักษ์ ทางด้านการตลาดนั้น น่าสนใจ เพราะมะขามเปรี้ยวยักษ์จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่จะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไม่แพ้พืชหลักอื่น เนื่องจากตลาดมีความต้องการเป็นจำนวนมากราคามะขามเปรี้ยวแกะเมล็ดแล้วจะมีราคากิโลกรัมละ 20-40 บาท มะขามฝักใหญ่แบบสดจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10-20 บาท มะขามเปรี้ยวเป็นพืชที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง โดยใช้เป็นส่วนประกอบของอาหาร ยา และเครื่องใช้ในครัวเรือน และยังทำเป็นในรูปอุตสาหกรรมได้อีก เช่นโรงงานน้ำพริก เครื่องปรุงน้ำพริกมะขามเปียกสำเร็จรูป สมุนไพรบำรุงผิวพรรณ เครื่องสำอาง ไวน์ แยม ซอสมะขาม ลูกอม เครื่องดื่ม ชามะขาม เยลลี่ ยาระบาย ยาลูกกกลอน ฯลฯ ตลาดสำหรับมะขามเปรี้ยวถือว่ากว้างมากเหมาะสำหรับเป็นไม้ผลในการแปรรูปเป็นระบบอุตสาหกรรม และยังมีตลาดสำหรับการส่งออกอีก ทางด้านผู้รับซื้อ มะขามเปรี้ยวฝักยักษ์ เพื่อไป ทำมะขามเปียก เนื่องจากน้ำหนักหายไปเยอะ หลังจาแกะเปลือกและเมล็ดออกแล้ว น้ำหนักจะหายไปประมาณ 60-70% จากราคาที่รับซื้อกันก็ไม่เกิน 20 บาท หักค่าใช่จ่ายแล้วราคาที่เกษตรกรได้จริงที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม และถ้าน้ำหนักฝักแห้งต่อต้นอยู่ที่ 500 กก. หลังแกะแล้วน้ำหนักหายไป 70% ก็จะได้อยู่ที่ต้นละ 150 กก x 10 บาท เท่ากับขายได้ต้นละ 1,500 บาท โดยประมาณ สำหรับมะขามเปียก ถ้าคิดที่ราคากลางก็จะได้ 150 กก. x 40 บาท เท่ากับต้นละ 6,000 บาท ถ้าเป็นมะขามสด ต่อต้นอยู่ที่ 500-1,000 กก. คิดที่ 700 กก แล้วกัน น้ำหนักไม่หาย x โลละ 7-8 บาท เท่ากับขายได้ต้นละ 4,900 – 5,600 บาท
ราคามะขามเปียก ตลาดไท โดยมะขามเปียกแกะเม็ด(มีก้าน) กิโลกรัมละ 35 – 40 บาท มะขามเปียกแกะเม็ด (ไม่มีก้าน) กิโลกรัมละ 40 – 45 บาท และมะขามเปียกมีเม็ด กิโลกรัมลา 18 – 20 บาท (ราคาล่าสุด ณ 6 มิถุนายน 2556) ปัญหาสำคัญของเกษตรคือ ราคาขายไม่ได้กำไรมาก
อ้างอิงข้อมูล : talaadthai.com / kasetporpeang.com / glamdring.baac.or.th
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น